[UPDATE] RDS for Db2 เปิดตัวแล้ว จึงลองสร้างดู #AWSreInvent
บทความนี้แปลมาจากบทความที่เป็นภาษาญี่ปุ่นที่ชื่อว่า [アップデート]RDS for Db2 がリリースされたので構築してみた #AWSreInvent โดยเจ้าของบทความนี้คือ คุณ Yoichi Sai เป็นคนญี่ปุ่นครับ
เมื่อแปลจากภาษาญี่ปุ่นมาเป็นภาษาไทยแล้วผมได้เรียบเรียงเนื้อหาใหม่เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น เนื่องจากบางครั้งอาจมีการอัปเดตข้อมูลใหม่ จึงมีความจำเป็นต้องอัปเดตให้เป็นข้อมูลปัจจุบัน
IBM Db2 พร้อมใช้งานบน RDS แล้ว ซึ่ง RDS for Db2 เป็นการเปิดตัวของ GA
สามารถใช้ Db2 เป็น Managed Database ได้
มาเริ่มสร้างไปพร้อมกับตรวจสอบประเด็นสำคัญกันครับ
ขั้นตอน
RDS for DB2 มีให้เลือก 2 รุ่น
- IBM Db2 Standard
- IBM Db2 Advanced
ครั้งนี้จะสร้าง IBM Db2 Standard
เวอร์ชัน Engine ที่ให้มาในปัจจุบันคือ 11.5.9.0
สร้าง Parameter group
ก่อนที่จะสร้าง RDS Instance จะต้องสร้าง Parameter group ก่อน
เนื่องจาก RDS for Db2 มีให้บริการแค่รุ่น BYOL เท่านั้น และต้องตั้งค่าข้อมูลใบอนุญาตที่นำมาเองในพารามิเตอร์ 2 ตัว (รุ่น Licence Include ไม่มีให้บริการ)
- rds.ibm_customer_id
- rds.ibm_site_id
ก่อนอื่น เข้ามาที่บริการ RDS แล้วเลือก Parameter groups
จากเมนูด้านซ้าย คลิก Create parameter group
แล้วเลือก db2-se-11.5
จาก Parameter group family (ครั้งนี้จะสร้าง Standard Edition)
และป้อน Group Name และ Description ตามต้องการ แล้วคลิก Create
ต่อไปเข้ามาที่ Parameter ที่สร้างเมื่อสักครู่นี้ แล้วคลิก Edit
เพื่อแก้ไขข้อมูล
เมื่อป้อน rds
ลงในช่องค้นหาแล้ว จะมี Parameter 2 ตัวแสดงขึ้นมา
แล้วป้อนข้อมูล Licence ของ Customer ID และ Site ID ในค่าเหล่านี้
สร้าง RDS Instance
เอาล่ะ เรามาเริ่มสร้าง RDS Instance กันครับ
เลือก Databases
จากเมนูด้านซ้าย แล้วคลิก Create database
แล้วจะตั้งค่าตามนี้
Choose a database creation method
» เลือก Standard create
Engine options
» Engine type: IBM Db2
Edition
» IBM Db2 Standard
Engine Version
» 11.5.9.0.sb00000000.r1
ต่อไปเลือก Instance class/Size
Instance size ที่สามารถสร้างได้ในปัจจุบันมีดังนี้ (รีเจี้ยน Singapore/ณ วันที่ 2023/12/14)
- Standard Edition
- Standard classes (includes m classes)
- db.m6i.large - db.m6i.8xlarge
- db.m6in.large - db.m6in.8xlarge
- Memory optimized classes (includes r and x classes)
- db.r6i.large - db.r6i.4xlarge
- db.r6in.large - db.r6in.4xlarge
- db.x2iedn.xlarge
- Burstable classes (includes t classes)
- db.t3.small - db.t3.2xlarge
- Standard classes (includes m classes)
- Advanced Edition
- Standard classes (includes m classes)
- db.m6i.12xlarge - db.m6i.32xlarge
- db.m6in.12xlarge - db.m6in.32xlarge
- Memory optimized classes (includes r and x classes)
- db.r6i.8xlarge - db.r6i.32xlarge
- db.r6in.8xlarge - db.r6in.32xlarge
- db.x2iedn.2xlarge - db.x2iedn.32xlarge
- Standard classes (includes m classes)
ต่อไปตั้งค่า Storage
Storage type: General Purpose SSD (gp3)
Allocated storage: 20 GiB
ต่อไปตั้งค่า VPC security group (firewall)
เมื่อเลือก Create new
Port จะถูกตั้งค่าเป็นค่าเริ่มต้นที่ 50000
สุดท้ายนี้จะตั้งค่า DB parameter group
เลือก Parameter group ที่สร้างในตอนแรก
แล้วคลิก Create database
เพียงเท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อยครับ
หากคลิก Create database โดยไม่ตั้งค่า Customer ID และ Site ID ก็จะแสดง Error "Your request to create DB instance xxxx didn't work." แบบนี้ครับ
*ครั้งนี้ผมไม่มี License จึงไม่ได้ป้อน License number ก็จะไม่สามารถสร้างได้ ดังนั้นผมจะเลือก Cancel
ครับ
สรุป
ในครั้งนี้มีการเปิดตัว Db2 ใน RDS ให้ได้ใช้งานกัน
และเนื่องจาก RDS เป็น Managed Service อยู่แล้ว การใช้งาน Db2 ใน RDS จึงรองรับการทำ Autoscaling, Backup/Restore, Storage encryption, Multi-AZ Deployment, รวมถึง Monitoring ให้แบบอัตโนมัติ ซึ่งเมื่อเทียบกับการใช้งาน Db2 บน EC2 แล้วถือว่าช่วยเบาแรงไปได้เยอะมากเลยครับ
แต่ในปัจจุบัน Db2 บน RDS ยังไม่รองรับฟังก์ชัน Performance Insights และ Reserved Instance ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างรอการอัปเดตอยู่ครับ
บทความต้นฉบับ
แปลโดย: POP (Tinnakorn Maneewong) จากบริษัท Classmethod (Thailand) ครับ !